เรามักจะได้เห็นข่าวผ่านช่องทางต่างๆ เกี่ยวกับการชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มักจะเกิดปัญหาไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าช็อต ไหม้ หรือรุนแรงขั้นระเบิด จากการใช้อะแดปเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการใข้งานที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งคุณสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายด้วยวิธีการใช้งานอะแดปเตอร์ให้ปลอดภัย ดังนี้
1.ใช้ของแท้เท่านั้น
ไม่ใช่ว่ายี่ห้อไหน ราคา หลัก 10 ก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะระบบความปลอดภัยนั้นแตกต่างกันอย่างแน่นอน สำหรับอแดปเตอร์และสายชาร์จของแท้จากผู้ผลิต เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีการผลิตที่ได้มาตรฐาน และเข้ากับอุปกรณ์ของเราได้ย่างเหมาะสม ยกเว้นว่าจะแจ๊คพอทเจอชิ้นที่หลุด QC ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายตามกฏหมายจากผู้ผลิตได้เลย หลายคนมองข้ามข้อนี้ไป เพราะคิดว่าอะแดปเตอร์หรือสายชาร์จของนั้นแพง จึงไปซื้อจากร้านทั่วไปที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง
2.อุปกรณ์พังอย่าซ่อมเอง
แน่นอนว่าเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซม ระบบที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า แนะนำว่าส่งให้ช่างซ่อมหรือซื้อใหม่ไปเลยจะดีกว่า ยิ่งถ้าซ่อมแล้วไฟบ้าน 220V รั่วเข้ามาในสายชาร์จก็อันตรายถึงชีวิตเลย เป็นไปได้ซื้อใหม่ชัวร์สุด เสียเงินไม่กี่บาท เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นดีกว่า
3.อย่าให้อุปกรณ์ที่ชาร์จเปียกเด็ดขาด
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำกับไฟนั้นไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นไฟฟ้าแล้วล่ะก็ เอาออกให้ห่างกันเลย อย่างอะแดปเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่จะต้องต่อเข้ากับปลั๊กไฟในบ้านโดยตรง ดังนั้นหากเผลอทำเผียกโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเปียกน้ำเฉพาะส่วนที่เป็นฉนวนก็ยังใช้ต่อได้ แต่ถ้าส่วนที่เป็นโลหะนั้นเปียกไปด้วย หรือเปียกในซอกหลืบที่ยากจะเช็ดออก ก็ทิ้งไปแล้วซื้อใหม่เถอะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
4.ไม่ใช้งานในขณะชาร์จอยู่
จากเหตุการณ์และข่าวต่างๆ ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากการใช้สมาร์ทโฟนในขณะชาร์จแบต หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สมาร์ทโฟนทันทีทันใด ควรถอดสายชาร์จออกก่อนเป็นอันดับแรก แล้วก็ใช้งานตามปกติ แค่นี้ก็ปลอดภัยแล้ว หรือว่าใครไม่อยากจะรอนานๆ แบบเบื่อๆ ก็ลองวางมือถือ ออกไปทำอย่างอื่นบ้าง เพื่อเพิ่มกิจกรรมให้กับตัวเอง
5.หากตัวเปียก ไม่ควรจับสมาร์ทโฟนที่กำลังชาร์จอยู่
การใช้งานในขณะที่ชาร์จแบตเป็นครั้งคราวไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าตัวเปียกแล้วไปจับ ชีวิตก็เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายนั่นเอง โอกาสที่ไฟจะรั่วก็มีสูงขึ้นเพราะน้ำกับไฟฟ้านั้นไม่ถูกกันอยู่แล้ว ซึ่งเราๆ ท่านๆ ที่เคยเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ (หรือฟิสิกส์) ก็คงจะรู้ข้อนี้กันดี